โลกของเรานั้นได้มีการถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อนานมากแล้ว แน่นอนว่ามันก็ต้องมีเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อครั้งในอดีต ซึ่งเรานั้นสามารถ ที่จะทราบเรื่องราวในอดีต ได้จากการศึกษาละการออกสำรวจในพื้นที่ต่างๆ สำหรับหลักฐานที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่มันจะสามารถทำให้เราได้รับรู้อะไรหลายอย่างๆ นั้นก็คือซากของฟอสซิลนั้นเอง
สำหรับซากฟอสซิล มันบอกอะไรหลายๆ อย่างให้กับเราได้รับรู้ว่าโลกในอดีต ก่อนที่มนุษย์อย่างเรานั้นจะได้ถือกำเนิดขึ้นมา มันมีอะไรเกิดขึ้นบาง สิ่งมีชีวิตในยุคต่างก่อน มีมนุษย์นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร
เชื่อได้เลยว่าในที่นี้มีหลายคน ที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต ยุคสมัยก่อนที่จะมีมนุษย์อย่างเรานั้นเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ โลกนั้นคือบ้านของสิ่งมีชีวิตต่างๆ มันเป็นอย่างนี้มาตั้งนานมาแล้ว และมันก็จะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เพราะว่าโลกนั้น ก็ยังคงมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ และในวันนี้เรื่องที่เรากำลัง จะกล่าวต่อไปก็คือ การค้นพบซากฟอสซิลโบราณ เรื่อง ฟอสซิลในอำพัน จำนวนมากที่ออสเตรเลีย
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลียได้มีการค้นพบ ฟอสซิลในอำพัน เป็นจำนวนมากในประเทศของ พวกเขา แถมหนึ่งในฟอสซิลอำพัน ที่มีการถูกค้นพบ ในครั้งนี้ยังเป็นฟอสซิลแบบแปลกๆ อย่างแมลงวัน 2 ตัว ที่ถูกผนึกเอาไว้เมื่อ 40-42 ล้านปีเสียด้วย
สำหรับการค้นพบในครั้งนี้ ได้มีการถูกระบุเอาไว้ว่าถูกค้นพบที่ถ่านหินในวิตอเรีย และที่สำคัญการค้นพบนี้ได้ฟอสซิลอำพัน ที่มีลักษณะที่เก่าแก่ ราว 5,800 ชิ้นเลยที่เดียว เป็นการค้นพบในประเทศออสเตรเลีย ทางภาคตะวันออกเฉียง และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแทสเมเนีย กับนิวซีแลนด์ และยังค้นพบ ฟอสซิลอำพันของซากแมลงวัน ซึ่งถือว่าเป็นการพบที่เป็นแมลงที่มีความเก่าแก่ที่สุด ในโซนประเทศออสเตรเลีย โดยผู้ค้นพบ คือ นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยโมนาซ และนอกไปจากแมลงวันที่กำลังผสมพันธ์กันอยู่นั้น ฟอสซิลอื่นๆ
ที่ได้ทีการถูกค้นพบในพื้นที่แห่งนี้ก็ถือได้ว่า ทำให้ชาวโลกสุดตะลึง ที่นอกเหนือจากแมลงวัน ยังพบสัตว์น้ำประเภทริ้นแม่น้ำเค็ม ที่คาดว่ามีอายุราว 41 ล้านปี หรือการค้นพบ มดแมงมุม สายพันธุ์โบราณ และพืชประเภทตระไคร้น้ำ ที่คาดว่ามีอายุถึง 42 ล้านปี อย่างไรก็ตาม สำหรับการค้นพบซากฟอสซิล หรือว่าหลักฐานต่างๆ
ที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่สำคัญทั้งนั้น เพราะมันจะได้ทำให้เราได้รับรู้ว่า ทำไมสัตว์เหล่านั้นถือได้สูญพันธ์ไปจนหมด แล้วในอนาคตมนุษย์อย่างเราจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ จึงเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ต้องค้นคว้าต่อไป
สนับสนุนเรื่องราวโดย sagame