รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน

เคยมีคำถามกันบ้างไหมว่า รัฐบาลของเราชุดนี้ไป รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน  แล้วรัฐบาลชุดนี้เอาเงินกู้ไปทำอะไร และรัฐบาลชุดนี้มีการกู้เงินกันจริงๆ หรือไม่ ซึ่งคำตอบที่วันนี้ทางผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ นั้นได้มีคำตอบว่า การที่มีคำถามว่ารัฐบาลได้มีการกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด

ซึ่งการกู้ตาม พรก.นั้นที่รัฐบาลแบ่งออกจากมีอยู่ 3 ฉบับ นั้นก็คือ พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน, พรก. Softloan 500,000 ล้าน และ พรก. Bond Stabilization Fund BSF 400,000 ล้าน แม้ว่าเมื่อรวมตัวเลขกันแล้วจะมีมูลค่า 1.9ล้านล้าน แต่มีเพียง พรก. ฉบับที่ 1 เท่านั้นที่จะใช้เงินกู้ ส่วนอีก 2 ฉบับ เป็นการใช้สภาพคล่องของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นการบอกว่า รัฐบาลกู้เงิน  1.9   ล้านล้าน

จึงเป็นการเข้าใจที่ผิดและไม่ถูกต้อง รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน  และกับคำถามที่ถามว่ารัฐบาลจะกู้เงินจากที่ไหนนั้น ทางรัฐบาลเองจะมีเครื่องมือในการกู้เงินระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการขายพันธบัตรตั้งแต่อายุ 5-50 ปีให้นักลงทุนสถาบัน หรือขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชน โดยการกู้จากองค์การระหว่างประเทศหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ส่วนเครื่องมือการกู้เงินระยะสั้นก็คือ การออกตั๋วเงินคลัง ซึ่งอยู่ภายใต้ พรก.กู้เงิน 1 ล้านล้านนี้ ก็จะกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลเองนั้นยังไม่ได้ทำการกู้เงินหนึ่งล้านล้านบาทแต่อย่างใด Ufabet เข้าสู่ระบบ ซึ่งหากกู้นั้นทางรัฐบาทเองจะทยอยกู้เงินตามความต้องการใช้เงิน ซึ่งในขณะนี้มีเพียง 2 โครงการเท่านั้นที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินกู้คือการเยียวยาประชนและเกษตรกร และในการนี้นั้นวงเงินที่กันไว้ว่าจะมีการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทอาจจะไม่จำเป็น เพราะถ้าหากพวกเราช่วยกันแล้วคุมโรคอยู่ ทุกๆ อย่างค่อยๆ ผ่อนคลายเศรษฐกิจเริ่มหมุน คนกลับมามีรายได้ เงินงบประมาณ 2564

ดูแลได้อย่างเพียงพอ ทางรัฐบาลเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกู้ให้ครบ แต่หากเมื่อใดก็ตามที่มีการกู้ครบแล้วนั้น สภาวะหนี้ของรัฐบาลเองจะต้องมีการใช้หนี้สาธารณะนี้อยู่ที่ 10ปีกว่าๆ โดยหนี้ที่อายุยาวที่สุดคือ 50 ปี ทั้งนี้ในการชำระหนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไว้ในงบประมาณทุกปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่าอัตราการชำระหนี้ที่เหมาะสมในแต่ละปีควรจะต้องมีการจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำกว่า 3% ของงบประมาณเพื่อใช้ในการชำระเงินต้น ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คงไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้ หากเศรษฐกิจดีขึ้นเมื่อไหร่ การชำระหนี้ให้หมดก็จะเร็วขึ้นเมื่อนั้น