คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก

คอมพิวเตอร์เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จากเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้คำนวณตัวเลขในยุคแรก ๆ สู่เครื่องมืออเนกประสงค์ที่อยู่ในกระเป๋าของเราในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ไม่ได้เพียงแค่เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราทำงาน แต่ยังสร้างผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การศึกษา การแพทย์ ไปจนถึงการสื่อสารและความบันเทิง

การกำเนิดและวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มีขนาดใหญ่และใช้งานได้จำกัด เช่น เครื่อง ENIAC ที่ใช้สำหรับคำนวณทางวิทยาศาสตร์และการทหาร แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น การประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์และไมโครชิป คอมพิวเตอร์จึงมีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง และมีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ในยุคปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ไม่ได้มีแค่ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) ซึ่งช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์และควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน

คอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การทำงาน การเรียน ไปจนถึงการพักผ่อนและความบันเทิง ตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่:

  1. การศึกษา
    คอมพิวเตอร์ทำให้การเรียนรู้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น e-learning และ MOOCs (Massive Open Online Courses) นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ทุกเวลา และมีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ต
  2. การทำงาน
    คอมพิวเตอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การจัดการข้อมูล การออกแบบกราฟิก หรือการทำงานด้านซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ การประชุมออนไลน์ผ่านโปรแกรมต่าง ๆ ยังช่วยให้การทำงานระยะไกลเป็นไปได้อย่างราบรื่น
  3. ความบันเทิง
    ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม หรือฟังเพลง คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนเป็นแหล่งรวมความบันเทิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการสร้างสรรค์เนื้อหา เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือการสร้างดนตรี

คอมพิวเตอร์กับอนาคต

ในอนาคต คอมพิวเตอร์จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและเทคโนโลยี แนวโน้มที่น่าสนใจในโลกของคอมพิวเตอร์ ได้แก่:

  1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
    คอมพิวเตอร์ที่สามารถเรียนรู้และตัดสินใจเองได้กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ การเงิน และการผลิต
  2. ควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computing)
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์มีศักยภาพในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปหลายล้านเท่า ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการเข้ารหัสข้อมูล
  3. การพัฒนาอินเทอร์เฟซระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร
    เทคโนโลยี เช่น การควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยสมอง (Brain-Computer Interface) หรือการพัฒนาอุปกรณ์ AR/VR จะทำให้การโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ความท้าทายของการใช้คอมพิวเตอร์

แม้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีความท้าทายที่มาพร้อมกัน เช่น:

  • ความปลอดภัยทางไซเบอร์: การโจมตีทางไซเบอร์และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัล
  • การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป: การใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น ความเครียดจากหน้าจอ (Digital Eye Strain) หรือการเสพติดอินเทอร์เน็ต
  • การเข้าถึงเทคโนโลยี: แม้คอมพิวเตอร์จะเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้

บทสรุป: คอมพิวเตอร์ในฐานะเพื่อนร่วมทาง

คอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสมัยใหม่ที่ช่วยให้เราทำงาน เรียนรู้ และเชื่อมต่อกับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทายที่ต้องจัดการ แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คอมพิวเตอร์จะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์ก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม

Meta โดนกระหน่ำเปรียบเสมือนมะเร็งประชาธิปไตย

Meta โดนกระหน่ำ  มาร์คซัคเคอร์เบิร์กเพิ่งมีการเปิดตัวการรีแบรนด์ชื่อบริษัทใหม่ได้ไม่นาน  ซึ่งชื่อใหม่ของบริษัทก็คือเมก้า   โดยมาแทนชื่อ Facebook  แต่หลังจากเพิ่งประกาศเปิดตัวไม่นานก็ได้มีนักการเมืองชาวอเมริกันคนหนึ่งซึ่งเธอเป็นนักการเมืองหญิงสังกัดพรรคเดโมแครตได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ชื่อแบรนด์  Mate ของ Facebookว่า เหมือนมะเร็งของประชาธิปไตย

        เปิดตัวได้ไม่นานก็โดนวิจารณ์แรงเลยทีเดียวนะคะโดยอเล็กซานเดรียโอคาซิโอ- คอร์เทซนักการเมืองชาวอเมริกันสังกัดพรรคเดโมแครตวิจารณ์ว่าเมต้านั้นเป็นเหมือนกับ cancer to democracy หรือมะเร็งของฝั่งประชาธิปไตยค่ะ

ซึ่งเธอก็ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่นานนักหลังจากที่ Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเมต้าซึ่งเธอบอกว่าเบต้าก็เหมือนกับมะเร็งที่ค่อยๆกระจายตัวไปเรื่อยๆและอาจจะกลายเป็นเหมือนเครื่องมือที่ใช้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อทำลายสังคมเพื่อผลกำไร

           สื่อนอก The Insider นำเสนอว่าปัญหาที่เธอพูดถึงนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับจำนวนข้อมูลแชทที่เผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อสังคมและระบอบประชาธิปไตยพูดง่ายๆก็คือว่าการเปลี่ยนชื่อไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า Facebook กำลังทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมาพร้อมกับการบิดเบือนข้อมูลและสร้างความเกลียดชังซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Facebook รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆนะคะ

       โดยก่อนหน้านี้เคยออกมาพูดถึงประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับการผูกขาดทางธุรกิจของ Facebook มาแล้วซึ่งนอกเหนือจากนักการเมืองก็ยังมีชื่ออื่นที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับเมตตาเช่นกัน   สำหรับทางด้าน Daily Show ก็เอาคลิปที่ซัคเคอร์เบิร์กกำลังพูดแนะนำในซ่ามาตัดต่อเข้ากับฟุตเทรดของเหตุการณ์จลาจลในรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคมรวมถึงการเดินขบวนชาตินิยมผิวขาวในปี 2017

       ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่มีการประชาสัมพันธ์บน Facebook จึงบริษัทก็ไม่สามารถที่จะจัดการกับข้อมูลเหล่านี้ได้เลยดูจากสิ่งที่ Facebook เคยทำมาจึงไม่น่าแปลกใจนะว่าทำไมหลายคนจึงคิดว่าการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเมก้าครั้งนี้ก็เหมือนกับการออกมาเบี่ยงเบนประเด็นดราม่าที่ Facebook กำลังเผชิญอยู่ 

    เรียกได้ว่าตอนนี้ไม่ว่าทางด้าน Facebook จะขยับเขยื้อนตัวไปทำอะไรก็เป็นข่าวทั้งหมดและข่าวส่วนใหญ่นั้นก็เป็นข่าวด้านเสียหายซึ่งทำให้ หุ้นของFacebook นั้น ตกลงมาอย่างต่อเนื่องมีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องของกำไรของทาง Facebook เป็นอย่างมากในตอนนี้อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูกันว่าหลังจากที่ทาง Facebook ได้มีการรีแบรนด์แล้วจะสามารถผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ได้ไปได้หรือไม่  แต่เชื่อว่าถึงแม้จะมีการโจมตี Facebook มากเท่าไหร่แต่กระแสความนิยมการใช้บริการ Facebook ก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย.   ทางเข้า gclub มือถือ

รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน

เคยมีคำถามกันบ้างไหมว่า รัฐบาลของเราชุดนี้ไป รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน  แล้วรัฐบาลชุดนี้เอาเงินกู้ไปทำอะไร และรัฐบาลชุดนี้มีการกู้เงินกันจริงๆ หรือไม่ ซึ่งคำตอบที่วันนี้ทางผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ นั้นได้มีคำตอบว่า การที่มีคำถามว่ารัฐบาลได้มีการกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด

ซึ่งการกู้ตาม พรก.นั้นที่รัฐบาลแบ่งออกจากมีอยู่ 3 ฉบับ นั้นก็คือ พรก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน, พรก. Softloan 500,000 ล้าน และ พรก. Bond Stabilization Fund BSF 400,000 ล้าน แม้ว่าเมื่อรวมตัวเลขกันแล้วจะมีมูลค่า 1.9ล้านล้าน แต่มีเพียง พรก. ฉบับที่ 1 เท่านั้นที่จะใช้เงินกู้ ส่วนอีก 2 ฉบับ เป็นการใช้สภาพคล่องของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นการบอกว่า รัฐบาลกู้เงิน  1.9   ล้านล้าน

จึงเป็นการเข้าใจที่ผิดและไม่ถูกต้อง รัฐบาลกู้เงินมาจากไหน  และกับคำถามที่ถามว่ารัฐบาลจะกู้เงินจากที่ไหนนั้น ทางรัฐบาลเองจะมีเครื่องมือในการกู้เงินระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการขายพันธบัตรตั้งแต่อายุ 5-50 ปีให้นักลงทุนสถาบัน หรือขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้กับประชาชน โดยการกู้จากองค์การระหว่างประเทศหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ส่วนเครื่องมือการกู้เงินระยะสั้นก็คือ การออกตั๋วเงินคลัง ซึ่งอยู่ภายใต้ พรก.กู้เงิน 1 ล้านล้านนี้ ก็จะกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลเองนั้นยังไม่ได้ทำการกู้เงินหนึ่งล้านล้านบาทแต่อย่างใด Ufabet เข้าสู่ระบบ ซึ่งหากกู้นั้นทางรัฐบาทเองจะทยอยกู้เงินตามความต้องการใช้เงิน ซึ่งในขณะนี้มีเพียง 2 โครงการเท่านั้นที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินกู้คือการเยียวยาประชนและเกษตรกร และในการนี้นั้นวงเงินที่กันไว้ว่าจะมีการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทอาจจะไม่จำเป็น เพราะถ้าหากพวกเราช่วยกันแล้วคุมโรคอยู่ ทุกๆ อย่างค่อยๆ ผ่อนคลายเศรษฐกิจเริ่มหมุน คนกลับมามีรายได้ เงินงบประมาณ 2564

ดูแลได้อย่างเพียงพอ ทางรัฐบาลเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกู้ให้ครบ แต่หากเมื่อใดก็ตามที่มีการกู้ครบแล้วนั้น สภาวะหนี้ของรัฐบาลเองจะต้องมีการใช้หนี้สาธารณะนี้อยู่ที่ 10ปีกว่าๆ โดยหนี้ที่อายุยาวที่สุดคือ 50 ปี ทั้งนี้ในการชำระหนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไว้ในงบประมาณทุกปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่าอัตราการชำระหนี้ที่เหมาะสมในแต่ละปีควรจะต้องมีการจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำกว่า 3% ของงบประมาณเพื่อใช้ในการชำระเงินต้น ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คงไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้ หากเศรษฐกิจดีขึ้นเมื่อไหร่ การชำระหนี้ให้หมดก็จะเร็วขึ้นเมื่อนั้น

จอยลดา

 จอยลดา เป็นแอพพลิเคชั่นนิยายออนไลน์ที่นักเขียนต่างๆต่างให้ความสำคัญเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่น

จอยลดาเป็นอย่างมาก เพราะในแอพพลิเคชั่นจอยลดา เป็นแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับนิยายรวบรวมนิยายหลากหลายแนว หลากหลายเพศ มีทั้งผู้ชายกับผู้ชาย(สาววายในจอยลดาเขาชอบกันมากเเละฮิตมาก) ผู้หญิงกับผู้หญิง ผู้ชายกับผู้หญิง ซึ่งแต่ละแนวก็จะแตกต่างกันออกไปในส่วนของแอพพลิเคชั่นจอยลดาแล้ว พอดาวน์โหลดสำเร็จ ก็เข้าไปได้เลยไม่ต้องสมัครก็ได้แต่ถ้าสมัคร ก็ได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมาย เเต่ถ้าสมัครสมาชิกกับจอยลดาเเล้ว ก็สามารถร่วมกิจกรรมอื่นๆได้เลย อย่างเช่น อ่านนิยาย สุ่มของขวัญ หรือร่วมกิจกรรมต่างๆที่ทางเเอพพลิเคชั่นจอยลดานั้น

กำหนดมาไห้ในเเต่ละวัน สำหรับนักเขียนของจอยลดา ก็สามารถสร้างนามปากกาของตัวเองได้ ซึ่งเเต่ละคนที่สมัครสมาชิกกับจอยลดาเเล้ว ก็สามารถเเต่งนิยายของตัวเองได้ จะใช้นามปากกาเเบบไหนก็ได้ เเล้วเเต่ที่เราจะต้องการถ้าคนอ่านเยอะ เเละคนไห้ความนิยมเยอะ ทางเเอพพลิเคชั่นจอยลดา ก็จะสร้างไห้เป็นเบอร์1 ของทางเเอพพลิเคชั่นจอยลดา เเละจะได้เงินรางวัลสำหรับการเเต่งนิยายครั้งนี้ มากกว่า50000บาท เเอพลิเคชั่น ไม่ได้มีเเค่เอาไว้เเต่งนิยายที่เป็นหน้าๆเดิมๆ ยังมีการสร้างเเชทสนทนาได้อย่างน่าสนใจอีก โดยการ สร้างเเบบการเเชทในโทรศัพท์มือถือ

เพียงเเค่ผู้อ่านกดเข้าไป ก็จะขึ้นเป็นหน้าเเชทเลย เพียงเเค่เราเเตะช่องว่างๆ เเชทการสนทนาก็จะเด้งขึ้นมาเเต่ละครั้งที่เรากด เรียกได้ว่า ถึงตัวละครจะเยอะมากเเค่ไหน เราก็ไม่มีทางงง เพราะทางเเอพพลิเคชั่นจอยลดา สามารถออกเเบบ เพื่อสร้างเเชทได้เเล้ว ยังสามารถสร้างตัวละคร กี่ตัวละครก็ได้ เพียงเเค่ใส่รูป เเล้วตั้งชื่อตัวละครนั้นๆ ก็สามารถได้ตัวละครที่ต้องการเเล้ว อยากได้กี่คน กี่ตัวละคร เราก็สร้างเองได้เลย 

สำหรับการสร้างโอเพนเเชทนี้ ต้องมีความพยายามอย่างมาก เพราะบางทีมันก็อาจจะยุ่งยากไปบ้าง เเต่เพื่อความสะดวกสบายของผู้อ่าน ถ้าเราอยากอ่านอะไร ต้องการเเนวไหน ก็เเค่พิมพ์ลงไปในช่องค้นหา เเล้วจะขึ้นมาหมดว่าเเนวที่เราต้องการเป็นเเบบนี้ อยู่ตรงนี้ สามารถกดอ่านได้เลย เเละสามารถเลือกหมวดหมู่การอ่านได้ เช่น หมวดสยองขวัญ ฆาตกรรม เลิฟซีน โรเเมนติก ในจอยลดา ก็มีหมด

ซึ่งตอบโจทย์คนที่ชอบอ่านนิยาย เเต่ไม่มีเวลาไปซื้อหนังสือนิยายมานั่งอ่าน ก็โหลดจอยลดามาอ่านได้ เพราะเเอพพลิเคชั่นนี้ เป็นเเอพพลิเคชั่นที่รวบรวมนิยาย ไว้ในเเอพพลิเคชั่นนี้ เพื่อความสะดวกต่อผู้อ่าน เพียงเเค่มีอินเตอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานเเอพพลิเคชั่นนี้ได้เเล้ว